วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

E-Advertsing


กลยุทธ์การตลาดเชิงรับ (Defensive marketing strategy)
     กลยุทธ์ในกลุ่มนี้มีไว้เพื่อป้องกัน Market Share, Mind Share, Brand Positioning และ Profitability จากการจู่โจมและช่วงชิงของคู่แข่ง  การตั้งรับที่ดีจะทำให้มี Superior Positioning ทันทีเมื่อเทียบกับคู่แข่งในทุกครั้ง หัวใจของการตั้งรับอยู่ที่ว่าเราต้องพยายามหาจุดอ่อนของเราอยู่ตลอดเวลาเพื่อสกัดให้ได้เมื่อถูกโจมตีหรือพยายามเปลี่ยนให้เป็นจุดแข็ง  เรียกว่าเป็นการทำ Weakness audit หลักการอื่น ๆ ก็คือต้องสอดส่องว่าคู่แข่งรายใดจ้องจะโจมตีเราบ้างและเมื่อใด  การจะใช้กลยุทธ์ให้ได้ผลดีก็ต่อเมื่อ Defenders มีการโต้ตอบที่สมน้ำสมเนื้อหรืออาจต้องหนักกว่าการโจมตีจากผู้คุกคาม  และต้องพยายามป้องกันทุก Strategic Markets ให้ได้
*********************************************************************************
กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก (Offensive marketing warfare strategies)
   กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่มีเป้าหมายเพื่อบรรลุเป้าประสงค์บางอย่าง โดยทั่วไปจะเป็นการชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งที่เป็นเป้าหมาย นอกจากส่วนแบ่งการตลาดแล้ว กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกยังมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ได้มาซึ่ง กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก, กลุ่มตลาดระดับบนและกลุ่มลูกค้าที่มีความภักดีสูง
ปัจจัยสำคัญ
ปัจจัยหลักของของกลยุทธ์มี 4 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ประเมินจุดแข็งของคู่แข่งที่เป็นเป้าหมาย พิจารณาถึงความสนับสนุนที่จะได้จากพันธมิตรของคู่แข่ง อนึ่ง ควรเลือกเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวในการจู่โจม
2. ค้นหาจุดอ่อนในตำแหน่งของคู่แข่ง โจมตีไปยังจุดนั้น ควรพิจารณาดูว่า การที่คู่แข่งเป้าหมายจะได้รับแรงสนับสนุนเพื่อกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้เสียเปรียบอีกครั้งต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่
3. เปิดฉากโจมตีให้ลงไปในตำแหน่งที่จำเพาะเจาะจงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากธรรมชาติของผู้ตั้งรับจะต้องตั้งรับในทุกทิศทุกทางที่อาจจะถูกโจมตี จึงเป็นข้อได้เปรียบทางกลยุทธ์ของผู้โจมตีให้สามารถทุ่มเทกำลังไป ณ จุดๆเดียว
4. เปิดฉากการจู่โจมให้เร็ว พลังของการโจมตีแบบไม่คาดฝันให้ผลที่มากกว่าการโจมตีด้วยกำลังมหาศาลแต่เอิกเริก
 *********************************************************************************
กลยุทธ์ “ซ่อนเร้น” (“invisible” strategies)
                กลยุทธ์และยุทธวิธีต่าง ๆ ที่นักการตลาดเจาะตรงนำมาใช้ จะเป็นลักษณ์ซ่อนเร้นจำบังคู่แข่งขันมองไม่เห็น หรือหากจะมองเห็นอยู่บ้าง แต่ก็น้อยกว่ากลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ปฏิบัติกันทางสื่อมวลชนมาก จากการใช้กลยุทธ์ที่ซ่อนเร้นดังกล่าว จะช่วยป้องกันมิให้คู่แข่งขันลอกเลียนแบบ หากการใช้แผมรณรงค์ทางการตลาดประสบผลสำเร็จ
********************************************************************************* 
กลยุทธ์สะสมแต้ม
   ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ นักการตลาดต้องมีการปรับแผนการตลาดเพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดสูง ไม่ใช่แค่ทัดเทียม แต่ต้องให้เหนือกว่าบริษัทคู่แข่ง ไม่ใช่แค่หาลูกค้าใหม่ แต่ต้องรักษาความภักดีต่อตราสินค้าของลูกค้าไว้ให้เหนียวแน่น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องน่าท้าทายสำหรับนักการตลาด ให้แสวงหาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าไม่ให้เปลี่ยนไปใช้สินค้าของคู่แข่ง “วิธีการสะสมแต้ม” เป็นแนวทางการตลาด อีกรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้แพร่หลายรู้จัก Enterprise Currency Marketing (ECM)
 *********************************************************************************
กลยุทธ์การตลาด แบบปากต่อปาก
    Viral Marketing คืออะไร ในปัจจุบันต้องยอมรับว่า สื่อออนไลน์ หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า Social Network เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากพอสมควร ซึ่งก็เข้าทางการตลาดแบบ Viral ที่อาศัยการบอกต่อโดยใช้สื่อที่เรียกว่า Social Network นี้เองในการเป็นสื่อกลาง จะกล่าวได้ว่าการตลาดแบบ Viral นั่นคือ การที่ผู้ส่งสารได้ไปประสบพบเจอแล้วเกิดอยากบอกต่อหรือแชร์ให้กับคนอื่นทราบ
 *********************************************************************************
กลยุทธ์โฮมเพจ บริการโฮมเพจ
    จะให้พื้นที่ฟรีแก่ลูกค้า จำนวน 1 หน้า เพื่อโฆษณาสินค้าและบริการ พร้อมระบุรายละเอียดอื่นๆ อาทิ สถานที่ตั้ง และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อ เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถติดต่อได้ทันที โดยมีรูปแบบของหน้าโฮมเพจให้ลูกค้าเลือกถึง 5 รูปแบบด้วยกัน ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายหลักของบีโอแอลคือผู้ประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจขนาดกลางที่ต้องการใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์ สามารถใช้บริการฟรีบนบีโอแอลเว็บไซต์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง
 *********************************************************************************
กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด
    กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดจะบอกรายละเอียดว่าวัตถุประสงค์ทางการตลาดแต่ละอย่างนั้น เราจะใช้วิธีการอย่างไร เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ในขณะที่วัตถุประสงค์ทางการตลาดที่เรากำหนดนั้นต้องมีความเฉพาะกำหนดขอบเขต ต่างๆ ชัดเจน และเกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรมการซื้อของบริโภคนั้น กลยุทธ์การตลาดกลับมีความหมายกว้างกว่าและจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของแผนตลาด กำหนดการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของสินค้า (Product Positioning) กลยุทธ์การตลาดและยังจะใช้เป็นกรอบอ้างอิงในการพัฒนาโปรแกรมด้วยส่วนผสมการ ตลาด (Marketing Mix) อีกด้วย ธุรกิจสามารถกำหนดกลยุทธ์ต่างๆ มากกว่า 1 กลยุทธ์ โดยพิจารณาจากหัวข้อต่างๆ

********************************************************************************* 

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

E-Retailing

ให้นักศึกษาค้นหาข้อมูลชื่อเว็บไซต์ตามกลุ่มต่อไปนี้
*********************************************************************************
B2B (5เว็บ)
www.Alibaba.com
www.Ec21.com
www.Globalsources.com
www.Farms.com
www.ThailandSupply.com
*********************************************************************************
B2C (10เว็บ)
www.myhomehitech.com
www.sb-maris.com
www.meeshape4slim.com
www.sim-dee.com
www.bkcatieshome.com
www.sumbaidee.com
www.meeshapeclub.com
www.bagbrandhome.com
www.vnppower.com
www.meshapeving.com
www.lushservice.com
*********************************************************************************
C2C (5เว็บ)
www.ebay.com
www.thaicar.com
www.thaionlinemarket.com
www.tarad.com
www.shopping.sanook.com
*********************************************************************************
C2B(5เว็บ)
www.se-ed.com
www.techopedia.com
www.c2bdata.com
www.c2binteractive.com
www.cb2.com
*********************************************************************************
B2E (5เว็บ)
www.nnplaza.com
www.goosiam.com
www.undp.or.th
www.thaiworld.org
www.icomosthai.org
*********************************************************************************

















ระบบชำระเงินของประเทศไทย

ระบบชำระเงินของประเทศไทย

1.การเปรียบเทียบระหว่างการชำระเงินต่อไปนี้

บัตรเครดิต // บัตรเดบิท
บัตรเครดิต (Credit Card) ชื่อบัตรก็บ่งบอกแล้วว่าต้องเป็นผู้ที่มีเครดิตจึงจะสามารถมีบัตรได้ บัตรเครดิต มีไว้เพื่อทำให้ชีวิตง่ายขึ้นในการจับจ่ายใช้สอย ทำให้ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากเวลาใช้จ่าย ผู้ที่ใช้อาจไม่มีเงินสดในบัญชีขณะใช้บัตรเลยก็ได้ เปรียบเสมือนผู้มีเครดิตสามารถซื้อของที่ต้องการก่อน และชำระเงินในภายหลังเมื่อครบกำหนด

บัตรเดบิท มีความแตกต่างจากบัตรเครดิตอย่างสิ้นเชิง กล่าวคือ คุณต้องมีเงินในบัญชีธนาคารจึงจะสามารถใช้จ่ายได้ สำหรับการใช้จ่ายสามารถนำบัตรเดบิตไปรูดซื้อสินค้าได้เหมือนบัตรเครดิต เพียงแต่ไม่ได้รับเครดิตใดๆ นั่นก็หมายความว่า หากคุณนำบัตรเดบิตไปซื้อสินค้าจำนวน 1,000 บาท คุณต้องมีเงินในบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทนั่นเอง บัตรเดบิตช่วยให้คุณมีความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า เพราะไม่ต้องเบิกถอนเงินสดไปชำระ
*********************************************************************************
BAHTNET // Media Clearing

ระบบโอนเงินรายใหญ่ (BAHTNET) เป็นเครือข่ายอีเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงินที่สร้างขึ้นโดย ธปท.สามารถส่งผ่านข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก โดยเน้นธุรกรรมขนาดใหญ่ผ่านเครือข่าย VPNที่เชื่อมอยู่กับ Terminalที่เคาน์เตอร์ของธ.พาณิชย์ โดยเป็นวิธีชำระเงินแบบมีผลทันที (Real Time Gross Settlement ; RTGS)

ระบบโอนเงินรายย่อย (Media Clearing) ให้บริการเช่นเดียวกับระบบBAHTNET แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญ คือ
1. ระบบ Media Clearing เป็นระบบชำระเงินรายย่อยซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 500,000 บาท
2. ระบบนี้ไม่มีการโอนเงินแบบมีผลทันที แต่จะรวบรวมธุรกรรมไว้จนถึง สิ้นวันจึงมีการส่งข้อมูลเข้าทำการชำระบัญชีระหว่างธนาคาร ซึ่งฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
*********************************************************************************

SWIFT // Western Union
SWIFT 
*ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ SWIFT
(Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ; SWIFT)

* เป็นคำสั่งโอนเงินผ่านเครือข่ายสากลที่เรียกว่า SWIFT ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มสถาบันการเงินเพื่อสร้างเครือข่ายการรับส่งข้อมูลทางการเงิน

* โดยปกติธนาคารพาณิชย์ไทย มักเปิดบัญชีกับธนาคารในต่างประเทศอยู่แล้ว เรียกว่า VOSTRO ส่วนใหญ่ VOSTRO คือ ธนาคารซิตี้แบงก์ใน NewYork เพราะกว้างขวาง ครอบคลุมทั่วโลก

 Western Union

* ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ SWIFT(Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ; SWIFT)

* เป็นคำสั่งโอนเงินผ่านเครือข่ายสากลที่เรียกว่า SWIFT ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มสถาบันการเงินเพื่อสร้างเครือข่ายการรับส่งข้อมูลทางการเงิน

* โดยปกติธนาคารพาณิชย์ไทย มักเปิดบัญชีกับธนาคารในต่างประเทศอยู่แล้ว เรียกว่า VOSTRO ส่วนใหญ่ VOSTRO คือ ธนาคารซิตี้แบงก์ใน NewYork เพราะกว้างขวาง ครอบคลุมทั่วโลก
*********************************************************************************
อธิบายช่องโหว่ของการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต พร้อมเสนอแนวทางการป้องกันปัญหา 
ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของท่านเองว่า ท่านสามารถควบคุมการใช้บัตรของท่านได้ถูกวิธีหรือไม่ หากท่านมีการใช้วงเงินเกิน การชำระคืนของท่านการมีบัตรเครดิตก็เป็นดาบ 2คมเช่นกัน ดังนั้นเมื่อท่านมีบัตรเครดิต ท่านควรมีวิธีการบริหารการใช้จ่ายอย่างถูกวิธี เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริหารการเงินของตัวท่านเอง
::แนวทางการป้องกัน::
ควรใช้เมื่อไรดี
1. สาธารณูปโภค สะดวกต่อการจ่ายเงิน
2. น้ำมัน จ่ายบัตรถูกกว่า เพราะบ้างบัตรมีส่วนลด 2 % แถมน้ำอีกต่างหาก
3. สินค้า/บริการ ราคาแพง เช่น พวกประกันชีวิต
4. ซื้อของผ่านเว็บ สะดวกและปลอดภัย (เฉพาะบ้างบัตรที่เราปฏิเสธ ความรับผิดชอบได้)

สิ่งที่ไม่ควรทำ
1.ใช้บัตรเครดิตกดเงินสด  ถ้าหากไม่จำเป็นจริง ไม่ควรทำ เพราะเสียดอกแพงมาก ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอีกมากมาย
2. บัตรเครดิดโปะบัตรเครดิตอื่น ถ้าหากทำอย่างนี้ ชิวิตก็จะวนไปเรื่อยจ่ายค่าบัตรไม่มีที่สิ้นสุด
บัตรเครดิตก็เหมือนไฟฟ้า เป็นนว้ตกรรมทางที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ชีวิตสะดวกขึ้น มีทั้งคุณและโทษขึ้นอยู่กับเราว่าจะใช้อย่างไร
*********************************************************************************
:: รายชื่อผู้ให้บริการ eBPP ทั่วโลก มาให้มากที่สุด
-ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (Small and Medium Enterprise Development Bank of Thailand)
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives)
-ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Export-Import Bank of Thailand)
-ธนาคารออมสิน (Government Saving Bank)
-ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (Government Housing Bank)
-ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (Islamic Bank of Thailand)
-ธนาคารกรุงไทย (Krung Thai Bank) - รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง
-ธนาคารทหารไทย (TMB Bank) - กลุ่มกองทัพไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
-ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank)
-ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Bank of Ayudhaya)
-ธนาคารกสิกรไทย (KasikornBank)
-ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank)
*********************************************************************************
2.นักศึกษาคิดว่าปัจจุบันการเข้ามาของเทคโนโลยี E-COMMERCEมีผลกระทบต่อนักศึกษาอย่างไร และคิดว่ามีผลดีผลเสีย หรือไม่อย่างไร
ไม่มีผลกระทบการดำเนินการธุรกิจการซื้อหรือการขายสินค้าบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เนตโดยที่ผู้ซื้อสามารถทำธุรกรรมทั้งหมดได้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เนต ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเลือกชมสินค้าซื้อสินค้า คำนวนเงินที่ต้องชำระ ชำระเงินได้ทั้งผ่านบัตรเครดิต โอนเงิน ได้โดยอัตโนมัติ และในส่วนของผู้ขายเองก็สามารถนำเสนอสินค้า ประชาสัมพันธ์ จัดโปรโมชัน ตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า รับการชำระเงิน จัดการกับสินค้าได้ทั้งหมดเหมือนกับมีร้านค้าจริงๆ ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม ลด แก้ไข รายการสินค้าภายในร้าน รวมถึงการประสานงานไปยังผู้จัดส่งสินค้า โดยอัตโนมัต ซึ่งกระบวนการทั้งหมดที่ได้กล่าวมาสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เนต โดยที่ผู้ซื้อและผู้ขายไม่ต้องเดินทางไปพบกัน
ข้อดีและข้อเสียของ E-Commerce
ข้อดี
1.สามารถเปิดดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2.สามารถดำเนินการค้าขายได้อย่างอิสระทั่วโลก
3.ใช้ต้นทุนในการลงทุนต่ำ
4.ไม่ต้องเสียค่าเดินทางในระหว่างการดำเนินการ
5.ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์ และยังสามารถประชาสัมพันธ์ในครั้งเดียวแต่ไปได้ทั่วโลก
6.สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ใช้บริการอินเทอร์เนตได้ง่าย
7.ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย
8.ไม่จำเป็นต้องเปิดเป็นร้านขายสินค้าจริงๆ
ข้อเสีย
1.ต้องมีระบบการรักษาความปลอดภัยของระบบที่มีประสิทธิภาพ
2.ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการอินเทอร์เนตได้
3.ขาดความเชื่อมั่นในเรื่องการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต
4.ขาดกฎหมายรองรับในเรื่องการดำเนินการธุรกิจขายสินค้าแบบออนไลน์
5.การดำเนินการทางด้านภาษียังไม่ชัดเจน

*********************************************************************************
3. E-COMMERCE สามารถสร้างกลยุทธ์ในการแข่งขันกับคู่แข่งทางการค้าได้หรือไม่อย่างไร
สามารถทำได้โดยกลยุทธ์ทางการตลาดสมัยใหม่ซึ่งเป็นส่วนผสมทางการตลาด(MarketingMix)หรือที่เรียกสั้นๆว่า 8P’sซึ่งต้องมีแนวทางความคิดทางการสื่อสารการตลาด(IMC)โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคแบบสมัยใหม่ซึ่งแบ่งส่วนขยายเพิ่มเติมจากเดิมอีกหลายส่วนทั้งงานศึกษาทั้งภายในและภายนอกประเทศเชื่อมโยงสู่การทำธุรกิจสมัยใหม่ซึ่งเน้นการสร้างผลกำไรสูงสุดบนความพอใจของผู้บริโภคซึ่งเป็นการทำธุรกิจระยะยาว(Long-TermBusiness)พร้อมกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคสมัยใหม่ซึ่งเปลี่ยนไปอย่างมากโดยเฉพาะการแบ่งส่วนการตลาด(Segmentation)

*********************************************************************************